ดิจิตอลโหมดกับกิจการวิทยุสมัครเล่น
ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับดิจิตอลโหมด ในกิจการนักวิทยสมัครเล่น
คำถามแรกดิจิตอลโหมดคืออะไร?
วิทยุสื่อสารระบบดิจิตอล หรือ ดิจิตอลโหมดก็คือการที่มีการแปลงสัญญาณเสียงของเราให้เป็นสัญญาณดิจิตอลก่อนนำไปผสมกับคลื่นความถี่ จากเดิมวิทยุสื่อสารของเราที่เป็นระบบ FM จะนำเสียงไปผสมกับคลื่นความถี่แล้วส่งออกอากาศ ในดิจิตอลโหมดนี้ก็จะแปลงสัญญาณเสียงเป็นสัญญาณดิจิตอลก่อน แล้วยังมีการแอบส่งข้อมูลต่าง ๆ ที่เราต้องการส่งออกไปในการกดคีย์แต่ละครั้งอีกด้วย เช่น มีการส่งพิกัด GPS ของผู้ส่งไปในระบบด้วย แต่จุดเด่นหลัก ๆ อีกหนึ่งอย่างของดิจิตอลโหมดคือการที่สามารถส่งสัญญาณผ่าน DV Repeater แล้วส่งออกผ่านอินเตอร์เน็ตเพื่อไปออกยังสถานี DV Repeater อื่น ๆ หรือแม้กระทั่งส่งสัญญาณไปออกที่ Private DV Repeater หรือ hotspot ส่วนตัวได้อีกด้วย ทำให้การสื่อสารในระบบดิจิตอลโหมดของวิทยุสมัครเล่นเป็นการสื่อสารที่ไร้พรมแดนเพราะสามารถสื่อสารจากวิทยุผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ตเพื่อไปออกยังสถานี DV Repeater ที่ใดก็ได้
ในด้านคุณภาพเสียงจากเดิมระบบ FM Analog จะมีเสียงแทรกหรือเสียงซ่าหากรับสัญญาณได้น้อย แต่ในดิจิตอลโหมดสัญญาณเสียงจะชัดเจนมากไม่มีเสียงแทรก หรือเสียงซ่าเวลารับสัญญาณยกเว้นกรณีที่รับสัญญาณได้ไม่ดีจริง ๆ ก็จะมีอาการเสียงเพี้ยนหรือขาด ๆ หาย ๆ ซึ่งเป็นปกติของระบบวิทยุสื่อสาร จากภาพด้านล่างจะเห็นว่าคุณภาพเสียงของวิทยุสื่อสารระบบดิจิตอลจะให้คุณภาพเสียงที่ดีแม้สัญญาณจะลดลงไปมาก ซึ่งต่างจากระบบอนาล็อคซึ่งคุณภาพเสียงจะลดตามระดับสัญญาณ
ดิจิตอลโหมดในกิจการวิทยุสมัครเล่นมีกี่ระบบ?
สำหรับโหมดดิจิตอลในกิจการิวทยุสมัครเล่นในปัจจุบันที่นิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลายก็จะมี DSTAR, DMR, YSF
DSTAR (Digital Smart Technologies for Amateur Radio) ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบโดยวิทยุสื่อสารยี่ห้อ Icom สำหรับระบบ DSTAR ในประเทศไทยถือว่ามีนักวิทยุสมัครเล่นใช้งานค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นระบบที่เข้ามาก่อน มีตัวเครื่องที่ถูกต้องตามกฏหมายรองรับหลายรุ่น เช่น Icom IC-V82-T, ID-51E-T, IC-2200-T, IC-9700-T และนอกจากนี้ กสทช. ยังมีงบประมาณสนับสนุนให้มีสถานี DV Repeater ประจำจังหวัดแต่ละจังหวัดอีก้วย จุดเด่นของ Icom DSTAR คือ การใช้ช่องสัญญาณที่แคบที่สุดในการสื่อสาร เพราะฉะนั้นอินเตอร์เน็ตที่ใช้ก็ไม่จำเป็นต้องมีความเร็วมาก ส่วนข้อเสียก็อาจจะเป็นที่คุณภาพเสียงที่จะด้อยลงมาเล็กน้อย
DMR (Digital Mobile Radio) DMR ได้ตัดแปลงมาจากวิทยุสื่อสารระบบดิจิตอลที่ใช้ในเชิงพาณิชย์จากประเทศในโซนยุโรป และนำมาใช้ในกิจการสมัครเล่น ระบบ DMR จึงมีใช้กันมากในต่างประเทศ จุดเด่นหลัก ๆ ของระบบ DMR คือการใช้การผสมสัญญาณแบบ TDMA (Time-division multiple access) คือการแบ่งความถี่รับและส่งเป็น Time Slot ใน 1 ความถี่จะมี 2 Time Slot ทำให้ในความถี่เดียวกัน เวลาเดียวกันสามารถสื่อสารกันได้พร้อม ๆ กัน 2 คู่สนทนาในความถี่เดียวกันเวลาเดียวกัน
C4FM (Continuous Four Level Frequency Modulation) เป็นการพัฒนาของค่าย Yaesu ซึ่งเน้นเรื่องการส่งสัญญาณได้พร้อมกัน 4 แบบบในความถี่เดียวกันพร้อม ๆ กัน ได้แก่ 3 แบบในโหมดดิจิตอลและอีก 1 แบบสำหรับ FM Analog สำหรับ C4FM ของค่าย Yaesu ในประเทศไทยยังไม่มีเครื่องที่ถูกต้องตามกฏหมายสำหรับนึกวิทยุสมัครเล่น จึงยังไม่มีการใช้งาน C4FM อย่างจริงจังในประเทศไทย อาจจะมีใช้กันเพียงเพื่อทดสอบและทดลองระบบเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีระบบดิจิตอล NXDN ซึ่งเป็นการร่วมพัฒนาระหว่าง Icom และ Kenwood นอกจากนั้นยังมี P25 อีก ซึ่งอาจจะมีใช้ในบางประเทศแต่ยังไม่แพร่หลายเท่าที่ควร อาจจะเป็นเพราะราคาเครื่องและการพัฒนาระบบทำให้มีคนใช้งานน้อยมาก
การใช้งานวิทยุสื่อสารในโหมดดิจิตอลนั้นยากหรือไม่?
ข้อนี้ก็ต้องขอตอบว่าก็มีขั้นตอนยุ่งยากขึ้นมาบ้าง แต่ไม่ยากจนเกินความสามารถของนักวิทยุสมัครเล่นครับ ส่วนสำคัญนั้นอยู่ที่การทำความเข้าใจในระบบครับ ว่าในการใช้งานจะต้องมีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เราสื่อสารกันได้ในโหมดดิจิตอล โดยส่วนมากในดิจิตอลโหมดนั้นจะให้มีการลงทะเบียนยืนยันตัวตนผ่านเว็บไซต์ก่อน ซึ่งปัจจุบันก็มีบทความและคลิปวิดีโออธิบายถึงขั้นตอนเป็นภาษาไทยทำให้สะดวกขึ้นมาก สิ่งต่อไปก็มาทำความเข้าใจกับระบบว่าเราจะเริ่มต้นอย่างไร และเริ่มที่ตรงไหน ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังมีบทความและคลิปวิดีโอในการใช้งานวิทยุสื่อสารและการลงมือประกอบอุปกรณ์ hotspot เพื่อใช้ในการสื่อสารระบบดิจิตอลให้ดูอีกมากมายอีกด้วย หรือถ้าท่านไม่ถนัดที่จะลงมือทำเองก็มีเพื่อน ๆ ทำเป็นชุดสำเร็จพร้อมใช้งานไว้จำหน่ายให้เรียบร้อย พร้อมกับการให้คำปรึกษาตั้งแต่เริ่มต้นกันเลยทีเดียว
เริ่มต้นเล่นดิจิตอลโหมดต้องลงทุนเยอะหรือไม่ หมดเยอะมั้ย?
คำถามนี้ต้องตอบว่าถ้าท่านจะเข้าสู่ดิจิตอลโหมดในกิจการนักวิทยุสมัครเล่นจริง ๆ ทุกวันนี้แทบจะเข้าสู่ระบบดิจิตอลได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่ม เพียงแต่ท่านมีโทรศัพท์มือถือในระบบ Android ก็เข้าสู่ดิจิตอลโหมดได้แล้ว และอีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือความต้องการที่จะใช้งานวิทยุสื่อสารในระบบดิจิตอลอย่างจริงจังของตัวท่านเองอันนี้เป็นต้นทุนที่ไม่ต้องเสียเงิน เพียงแต่อาจต้องสละเวลาเพื่อมาศึกษาเรียนรู้ระบบบ้าง เพียงเท่านั้นเอง
จะเริ่มต้นอย่างไรกับวิทยุสมัครเล่นในโหมดดิจิตอล?
การเริ่มต้นในดิจิตอลโหมด สิ่งแรกที่นักวิทยุสมัครเล่นอย่างเราจะต้องทำนอกเหนือจากการมีวิทยุสื่อสารในโหมดดิจิตอลก็คือการลงทะเบียนเพื่อในงานในระบบ DSTAR และ DMR ถ้าถามว่าจำเป็นต้องลงทะเบียนทั้งสองระบบหรือไม่ คำตอบก็คือไม่จำเป็น แต่ก็ควรที่จะลงทะเบียนไว้ทั้งสองระบบ เนื่องจากเวลาเราใช้งานไปถึงจุดหนึ่งก็จะมีการเชื่อมการสนทนาของทั้งสองระบบ เราจึงจำเป็นต้องมีการลงทะเบียนระบบไว้ทั้งสองระบบเพื่อการใช้งานอย่างราบรื่น ซึ่งผมมีข้อมูลทั้งบทความและคลิปวิดีโอไว้ให้แล้ว สำหรับการลงทะเบียนระบบ DMR เราจะลงทะเบียนกันที่ www.radioid.net บทความแนะนำการลงทะเบียน คลิ๊กที่นี่ หรืออยากดูเป็นคลิปวิดีโอ คลิ๊กที่นี่ สำหรับการลงทะเบียนในระบบ DSTAR จะเป็นคลิปวิดีโอ คลิ๊กที่นี่ หลังจากท่านลงทะเบียนแล้ว ระหว่างนี้อาจจำเป็นต้องรอระบบ update ข้อมูล 1–3 วันจึงจะทดสอบใช้งานได้
หลังจากที่ลงทะเบียนสำเร็จแล้ว ท่านก็สามารถเริ่มต้นการรับฟังเพื่อน ๆ สนทนากันในดิจิตอลโหมดได้ง่าย ๆ ด้วยการโหลด Application Droidstar ลงบนโทรศัพท์มือถือในระบบ Android โดยสามารถดูคลิปวิดีโอประกอบได้จาก ที่นี่ หรือหากต้องศึกษาเพิ่มเติมก็สามารถดูได้จาก Channel Youtube ของผมได้เลยครับ
หลังจากลงทะเบียนและตั้งค่าการใช้งาน Application Droidstar แล้ว เพียงเท่านี้ท่านก็สามารถเข้าสู่โลกของวิทยุสมัครเล่นในโหมดดิจิตอลโหมดได้แล้ว ท่านสามารถรับฟังการสนทนาในระบบดิจิตอล DMR และ DSTAR ได้แล้ว
ใช้งานได้แล้วแบบนี้ก็ไม่ต้องซื้อวิทยุสื่อสารระบบดิจิตอลแล้วสิ?
ก็เป็นหนึ่งคำถามยอดฮิตที่ถามกันประจำ ก็อยากจะบอกว่าสามารถสื่อสารได้แล้วก็จริง แต่ด้วยความสามารถอันจำกัดของ Application จึงทำให้การใช้งานยังไม่ค่อยคล่องตัวเท่าไร และด้วยสายเลือดของนักวิทยุสมัครเล่น เราก็คงอดไม่ได้ที่ชอบกดคีย์จากวิทยุสื่อสารแท้ ๆ มากกว่ากดคีย์จากหน้าจอ Smartphone เพราะเราคือนักวิทยุสมัครเล่น ไม่ใช่ นักสมาร์ทโฟนสมัครเล่นนั่นเอง แต่เหตุผลจริง ๆ ที่เราควรจะมีวิทยุสื่อสารไว้ใช้งานก็น่าจะเป็นเพราะวิทยุสมัครเล่น คือ การติดต่อสื่อสารด้วยวิทยุรับส่ง ไม่ว่าจะเป็นโหมดอนาล็อคหรือดิจิตอลก็ตาม และการใช้งานวิทยุสื่อสารจริงก็จะทำให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจหลักการทำงานจริง ๆ ของการสื่อสารในโหมดดิจิตอลอีกด้วย เพราะเราจะได้ใช้วิทยุสื่อสารติดต่อไปยังสถานี DV Repeater และ hotspot ส่วนตัว ซึ่งยังมีอะไรที่สนุก ๆ อีกหลายอย่างให้เราได้ทดสอบทดลองกัน
ถ้าเลือกซื้อวิทยุสื่อสารจะเลือกระบบใดระหว่าง DSTAR กับ DMR?
เป็นอีกหนึ่งคำถามยอดฮิตสำหรับผู้ที่เริ่มเข้าสู่ดิจิตอลโหมด ผมอยากจะขอแนะนำอย่างนี้นะครับว่า ถ้าท่านเคยชินกับความเป็น Icom และไม่อยากยุ่งยากในการโปรแกรมช่องความถี่ก็แนะนำใช้เป็นระบบ DSTAR ของ Icom เพราะเน้นการใช้งานตั้งค่าต่าง ๆ ได้จากหน้าเครื่อง ในส่วนของระบบก็จะใช้งานได้ไม่ซับซ้อน ส่วนระบบ DMR ท่านก็สามารถใช้งานได้จาก Application แทนก็ได้ แต่ถ้าท่านคิดว่าท่านมีความพร้อมที่จะใช้งาน Software Program ช่องความถี่ของวิทยุสื่อสาร และอยากได้เครื่องที่มีราคาค่อนข้างถูกกว่าระบบ DSTAR ก็แนะนำให้เลือกซื้อวิทยุสื่อสารในระบบ DMR มาใช้งาน ซึ่งในปัจจุบันในประเทศไทยมีเพียงยี่ห้อเดียวที่เป็นเครื่องถูกต้องตามกฎหมาย สามารถจดทะเบียนใช้ได้ คือเครื่องยี่ห้อ Expert หรือในต่างประเทศจะรู้จักกันในชื่อยี่ห้อว่า Anytone ซึ่งมีทั้งมือถือและโมบายให้เลือกซื้อ
ในด้านของระบบไม่ว่าจะเป็น DSTAR หรือ DMR ท่านเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจกับระบบซึ่งท่านไม่เคยใช้มาก่อน ซึ่งในระยะแรกอาจจะมีความยุ่งยากอยู่บ้างแต่ผ่านไปซักพักก็จะเข้าใจระบบได้ไม่ยากนัก
ในด้านของการสนับสนุนของทาง กสทช. ได้มีงบประมาณในการติดตั้งอุปกรณ์ให้สถานี DV Repeater ในระบบ DSTAR ให้กับสมาคมวิทยุสมัครเล่นของจังหวัดต่าง ๆ โดยทยอยติดตั้งทีละ 10 จังหวัด ซึ่งอีกไม่นานก็จะมีสถานี DV Repeater ระบบ DSTAR ให้ใช้ในหลาย ๆ จังหวัด แต่สำหรับระบบ DMR ขณะนี้มี DV Repeater เพียงแห่งเดียวซึ่งเป็นของสมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สวสท.) ติดตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์ จังหวัดนนทบุรี แต่จริง ๆ แล้วจะมี DV Repeater หรือไม่มีก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับการใช้งานของทั้งสองระบบ เพราะการใช้งานผ่าน hotspot ส่วนตัวก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกสำหรับท่าน เพราะจะไปใช้ที่ไหนก็ได้ขอให้มีสัญญาณอินเตอร์ให้กับตัวอุปกรณ์ hotspot
อุปกรณ์ hotspot ส่วนตัวแพงหรือไม่? ทำเองได้หรือไม่?
สำหรับคำถามนี้ก็ต้องตอบว่าราคาของอุปกรณ์ hotspot ส่วนตัว ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่เราหาได้ว่าถูกหรือแพง และเป็นมีคุณสมบัติอย่างไรราคาก็จะขึ้นกับอุปกรณ์ที่นำมาประกอบครับ โดยทั่ว ๆ ไปรวม ๆ แล้วก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,800 บาท ขึ้นไป สามารถทำเองได้ครับ ซึ่งก็จะมีคลิปวิดีโอแนะนำวิธีการประกอบอยู่มากมาย แต่ถ้ากรณีที่เริ่มเล่นระบบก็อาจจะหาซื้อแบบประกอบสำเร็จมาซึ่งก็ลดปัญหาในการเรียนรู้ไปอีกมาก หากชำนาญแล้วก็อาจจะลองจัดหาอุปกรณ์มาประกอบขึ้นมาเองก็ได้