ตั้งค่า AllStar Link Node ให้รองรับการเชื่อมต่อจาก Echolink

Digital Ham Radio
3 min readJul 25, 2021

--

สำหรับในระบบ AllStar Link เราสามารถที่จะตั้งค่าให้โหนดของเราให้เป็นเหมือนสถานี Link ของ Echolink ได้ด้วย โดยที่จะรองรับจากเชื่อมต่อจากสถานี Echolink อื่น ๆ ได้ และก็จะมีสัญญาณเสียงมาออกที่โหนด AllStar Link ที่เชื่อมต่อกันอยู่

ข้อมูลที่ต้องจัดเตรียมจาก Echolink

ก่อนอื่นเราจะต้องทราบข้อมูลต่าง ๆ จากระบบ Echolink ก่อน เช่นสัญญาณเรียกขานที่จะใช้ในระบบ Echolink, รหัสผ่านในระบบของ Echolink และหมายเลข Echolink Node สำหรับการสมัครใช้งาน Echolink ผมไม่ขอกล่าวนะครับเพราะเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านน่าจะมีประสบการณ์ในการใช้งาน Echolink มามากกว่าผม

การตั้งค่าระบบ Network ที่จำเป็นในการเชื่อมต่อ

สำหรับการที่จะให้เชื่อมต่อ Echolink เข้ามาได้นั้นสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องมีคือระบบ IP ที่สามารถ Forward Port เข้ามาจากภายนอกให้ถึงโหนด AllStar Link ตามหมายเลข Port ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

Protocol UDP หมายเลข Port 5198
Protocol UDP หมายเลข Port 5199
Protocol TCP หมายเลข Port 5200

สำหรับเรื่องการ Forward Port นั้นผมจะทำเป็นบทความเฉพาะเกี่ยวกับเรื่อง Port ต่าง ๆ ที่ใช้ในระบบของ AllStar Link นะครับ

เริ่มตั้งค่า AllStar Link

ให้ใช้โปรแกรม Putty เพื่อ Login เข้าระบบของ AllStar Link เพื่อตั้งค่าต่าง ๆ

ภาพตัวอย่างหลังจากใช้โปรแกรม Putty รีโมทเข้าไปใน AllStar Link

สั่งเปลี่ยน Directory การทำงานไปที่ /etc/asterisk ซึ่งเป็นที่เก็บไฟล์ต่าง ๆ ของระบบ Asterisk ที่อยู่ใน AllStar Link

cd /etc/asterisk
ภาพตัวอย่างการใช้คำสั่งเปลี่ยน Directory ไปอยู่ที่ /etc/asterisk

ใช้คำสั่งเพื่อแก้ไขไฟล์ echolink.conf ซึ่งเป็นไฟล์ตั้งค่าการเชื่อมต่อ Echolink

sudo pico echolink.conf
ภาพตัวอย่างการใช้คำสั่งเพื่อแก้ไขไฟล์ echolink.conf

หลังจากใช้คำสั่ง pico เพื่อเข้าไปแก้ไขไฟล์แล้วจะเห็นตัวอย่างไฟล์ของเดิมดังภาพ

ภาพตัวอย่างข้อมูลเดิมของไฟล์ echolink.conf

ข้อมูลสำคัญที่จำเป็นจะต้องใส่ก็คือ

call = สัญญาณเรียกขานในระบบ Echolink เช่น HS2BMI-L (แนะนำให้ใช้ -L)
pwd = รหัสผ่านของ Echolink เช่น 12345678
name = ชื่อของเจ้าของสถานี Echolink เช่น Suttipong
qth = พื้นที่ ๆ สถานี Echolink ตั้งอยู่ เช่น Bangkok
email = e-mail ติดต่อของสถานี Echolink เช่น hs2bmi@gmail.com
node = หมายเลขโหนดของ Echolink ซึ่งดูได้จากระบบของ Echolink
astnode = หมายเลขโหนดของ AllStar Link เช่น 55087

ข้อมูลประกอบอื่น ๆ ที่ใส่เพิ่มตามความต้องการ

lat = Latitude เช่น 12.00000
long = Longitude เช่น 100.00000
freq = ความถี่ของสถานี Echolink ที่เปิดอยู่ เช่น 145.0000
tone = ความถี่ Tone ถ้ามีการใช้งาน เช่น 88.5
power = กำลังส่งของสถานี เช่น 0
maxstns = กำหนดจำนวนสถานีที่สามารถเชื่อมเข้ามาได้ เช่น 20
ภาพตัวอย่างหลังจากแก้ไขข้อมูลในไฟล์ echolink.conf

หลังจากแก้ไขและได้ตรวจสอบข้อมูลดีแล้วก็ทำการบันทึกข้อมูลโดยกด Ctrl+O และออกจากโปรแกรม pico โดยกด Ctrl+X

ต่อจากนั้นให้ใช้คำสั่งเพื่อแก้ไขไฟล์ modules.conf ซึ่งจะต้องสั่งให้ AllStar Link มีการโหลดโมดูลของ Echolink ด้วย

sudo pico modules.conf
ภาพตัวอย่างการใช้คำสั่งเพื่อแก้ไขไฟล์ modules.conf

ในไฟล์ modules.conf ให้หาบรรทัดที่มีคำว่า noload => chan_echolink.so และแก้ไขให้เป็น load => chan_echolink.so (เอาคำว่า no ออก)

ภาพตัวอย่างหลังจากแก้ไขข้อมูลในไฟล์ modules.conf

ทำการบันทึกด้วยการกด Ctrl+O และกด Ctrl+X เพื่อออกจากโปรแกรม pico

ทดลองสั่งให้เริ่มการทำงานของ AllStar Link ใหม่ด้วยคำสั่ง

sudo astres.sh
ภาพตัวอย่างการใช้คำสั่งเพื่อเริ่มโหลดการทำงานใหม่ของ AllStar Link

หลังจาก AllStar Link ได้เริ่มการทำงานใหม่ด้วยการตั้งค่าที่ทำไปแล้ว ให้เข้าไปเช็คในระบบของ Echolink ว่าสัญญาณเรียกขานของสถานี Echolink ที่เราตั้งค่าไปนั้นมีสถานะออนไลน์ในระบบแล้วหรือไม่ ซึ่งดูได้จากเมนู Current Logins ในหน้าเว็บของ Echolink.org ให้กด Ctrl+F เพื่อค้นหาสัญญาณเรียกขานของเรา

ภาพตัวอย่างการค้นหาสัญญาณเรียกขานของสถานีจากหน้าเว็บของ Echolink

ระยะเวลาที่สถานี Echolink ของเราจะมีสถานะออนไลน์ปกติแล้วใช้เวลาไม่นานนัก ไม่น่าเกิน 5 นาที ถ้ารอนานแล้วสถานีไม่ออนไลน์ในระบบของ Echolink แสดงว่าอาจจะมีความผิดพลาดในการตั้งค่า หรือสถานะ Account ในระบบ Echolink ของเราไม่สามารถใช้งานได้ ให้ตรวจสอบการตั้งค่าอีกครั้งและมั่นใจว่าสัญญาณเรียกขานของเราในระบบของ Echolink ได้มีการ Validation จาก Echolink เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ภาพตัวอย่างการตรวจสอบสถานะ Validation ของสัญญาณเรียกขาน

ทดสอบเชื่อมต่อจาก Application Echolink เข้าสู่โหนด AllStar Link ของเราแต่ผ่านทางโหมดการเชื่อมต่อของ Echolink

ภาพตัวอย่างการใช้ Application Echolink เชื่อมต่อไปยัง HS2BMI-L

สำหรับการเชื่อมต่อของ Echolink ที่เชื่อมต่อเข้ามายัง AllStar Link จะมีข้อมูลเพียงแค่หมายเลขโหนดชั่วคราวและคำว่า Echolink ในข้อมูล Node Information เท่านั้น เนื่องจากจะไม่มีการส่งข้อมูล Information ต่าง ๆ จากระบบของ Echolink มายัง AllStar Link ระบบของ AllStar Link จึงระบุได้แต่เพียงแค่ว่าเป็นสถานีที่เชื่อมต่อมาจากระบบของ Echolink

ภาพตัวอย่างสถานีของ Echolink ที่เชื่อมต่อเข้ามาในระบบของ AllStar Link

จากการทดสอบสนทนาผ่าน Echolink มายัง AllStar Link พบว่าคุณภาพเสียงจะไม่ค่อยดีเท่าไร ซึ่งจะด้อยกว่าการสนทนาโดยตรงในระบบของ AllStar Link เอง แต่ก็ถือว่าเป็นการสื่อสารทางเลือกที่ทำให้ระบบต่าง ๆ เชื่อมเข้าหากันได้

สำหรับท่านที่อ่านแล้วพบข้อบกพร่องของบทความหรือติดปัญหาในการติดตั้งต่าง ๆ สามารถสอบถามโดยตรงได้ที่ผม HS2BMI ผ่านทางไลน์ส่วนตัว ID : aisfttx และท่านที่สนใจในระบบ AllStar Link และระบบดิจิตอลโหมดของวิทยุสื่อสารสามารถเข้าร่วมกลุ่มไลน์ Openchat ได้ครับ

QR Code LINE Openchat AllStar Link
QR Code LINE Openchat XLX822

--

--

Digital Ham Radio
Digital Ham Radio

No responses yet