ติดตั้ง Allmon2 และ Supermon ให้ AllStar Link Node
หลังจากที่เราได้ติดตั้งโปรแกรม AllStar Link เพื่อทำโหนด AllStar กันเรียบร้อยแล้วขั้นต่อไปก็จะติดตั้ง Allmon2 และ Supermon ซึ่งเป็นเครื่องมือให้เราดูข้อมูลโหนด ของเราผ่านทางหน้าเว็บไซต์ซึ่งติดตั้งอยู่ในตัว Raspberry Pi จริง ๆ แล้วทั้ง Allmon2 และ Supermon นั้นมีโปรแกรมติดตั้งมาแล้ว เหลือแต่การตั้งค่าเพื่อให้ Login เข้าไปใช้งานได้
ทดสอบเข้าใช้งานหน้าเว็บไซต์
เราสามารถทดสอบเรียกใช้งานหน้าเว็บไซต์ Allmon2 และ Supermon ได้ง่าย ๆ โดยระบุหมายเลข IP Address ของ Raspberry Pi แล้วตามด้วย allmon2 หรือ supermon ตัวอย่างเช่นหมายเลข IP ของ AllStar Link ของผมเป็น 192.168.77.92 ผมก็จะต้องพิมพ์
http://192.168.77.92/allmon2 สำหรับ Allmon2 หรือ
http://192.168.77.91/supermon สำหรับ Supermon
ถ้าทดลองเปิดหน้า Allmon2 แล้วไม่ขึ้นภาพตามตัวอย่าง น่าจะเกิดจากเป็น bug ของ Image ไม่มีไฟล์ allmon.ini.php มาให้ จึงแสดงหน้าเว็บมีความผิดพลาด
ให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์ allmon.ini.php จาก Server ของ allstar.xlx822.com โดยสามารถ copy code ด้านล่างไปว่างในโปรแกรม putty ได้เลย โดยการคลิ๊กขวาในโปรแกรม putty ทั้งนี้เราจะต้องทำการ copy code ของการดาวน์โหลดไว้แล้ว
sudo wget https://allstar.xlx822.com/allmon.ini.example -O /var/www/html/allmon2/allmon.ini.php--- สองบรรทัดด้านบนเป็นบรรทัดเดียวกัน ---
หลังจากดาวน์โหลดสำเร็จแล้ว ให้ลองเปิดหน้าเว็บของ Allmon2 อีกครั้ง จะเห็นว่าหน้าเว็บเปลี่ยนไปและมีหมายเลขโหนดเป็น 00000 ซึ่งเป็นหมายเลขของไฟล์ตัวอย่างที่ผมทำไว้
เริ่มตั้งค่า Allmon2
ให้รีโมทเข้า AllStar ของเราและใช้คำสั่งย้าย Directory ไปที่ /etc/asterisk
และใช้คำสั่งเพื่อแก้ไขไฟล์ manager.conf เพื่อไปกำหนดรหัสผ่านของ Asterisk
cd /etc/asterisk
sudo nano manager.conf
กำหนดรหัสผ่านที่บรรทัด secret = รหัสผ่านที่ต้องการ
หลังจากระบุรหัสผ่านแล้วบันทึกการแก้ไขโดยกดปุ่ม Ctrl+O แล้วกด Enter และกดปุ่ม Ctrl+X เพื่อจบการแก้ไข
ต่อจากนั้นเปลี่ยน Directory การทำงานไปยัง /var/www/html/allmon2
cd /var/www/html/allmon2
ใช้คำสั่งเพื่อแก้ไขไฟล์ allmon.ini.php
หมายเหตุ ในบทความบางจุดใช้คำสั่ง pico บางจุดใช้คำสั่ง nano ซึ่งเป็นคำสั่งแก้ไขไฟล์ในระบบ Linux ซึ่งทั้ง pico และ nano สามารถใช้ได้เหมือนกัน
sudo nano allmon.ini.php
กำหนดหมายเลขโหนดของเราและกำหนดรหัสผ่านของ Allmon2 ที่บรรทัด password=รหัสผ่านของเราที่กำหนดไว้ในไฟล์ /etc/asterisk/manager.conf
บันทึกค่าและออกจากการแก้ไข ทำการสร้างรหัสผ่านให้กับระบบอีกครั้งด้วยคำสั่ง
sudo htpasswd -cB .htpasswd admin
ระบุรหัสผ่านให้เหมือนกับในไฟล์ allmon.ini.php ที่ได้กำหนดไปแล้ว
ข้อควรระวัง!!!
การใส่ระหัสผ่านสำหรับระบบ Linux จะไม่มีข้อความหรือสัญญลักษณ์อะไรแสดงที่หน้าจอเพราะฉะนั้นเราจะต้องระมัดระวังในการใส่ให้ถูกต้อง หากใส่ผิดไม่สามารถที่จะใช้ Del หรือ Back Space ลบข้อมูลได้ ให้ใช้ Ctrl+U แล้วใส่รหัสใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น
ทดลองเปิดหน้าเว็บและคลิ๊กที่ Login เพื่อเข้าใช้ระบบ
ให้ระบุ Username : admin และรหัสผ่านที่เรากำหนดไว้แล้วคลิ๊กที่ OK
หมายเหตุ เว็บบางตัว Enter แล้ว Login ไม่เข้าเพราะฉะนั้นแนะนำให้คลิ๊กที่ OK เพื่อเข้าระบบครับ
ถ้าหากเข้าระบบได้ปุ่ม Login จะเปลี่ยนเป็นปุ่ม Logout ให้ลองคลิ๊กที่ปุ่มหมายเลขโหนดจะมีข้อมูลของโหนดแสดงขึ้นมา จากตัวอย่างด้านล่างจะแสดงคำว่า
51546 — Node not in database
เป็นเพราะตัว Raspberry Pi ยังไม่มีข้อมูลของโหนดหมายเลข 51546 ต้องใช้คำสั่ง astdb.php เพื่อโหลดข้อมูลของโหนดต่าง ๆ ลงมาไว้ใน Raspberry Pi
ก่อนอื่นต้องเปลี่ยนประเภทของไฟล์ astdb.php ให้เป็นบบ run ได้ก่อนโดยใช้คำสั่ง
sudo chmod 777 astdb.php โดยจะต้องอยู่ที่ /var/www/html/allmon2 หรือ
sudo chmod 777 /var/www/html/allmon2/astdb.php
จากนั้นให้ทดสอบใช้คำสั่ง ./astdb.php ที่ command line (ต้องอยู่ที่ /var/www/html/allmon2/) หรือ /var/www/html/allmon2/astdb.php
./astdb.php โดยจะต้องอยู่ที่ /var/www/html/allmon2 หรือ
/var/www/html/allmon2/astdb.php
หลังจากใช้คำสั่งและสถานะเป็น Success แล้ว ให้ทดลองโหลดหน้าเว็บใหม่อีกครั้ง
ทดสอบสั่งเชื่อมต่อโหนดผ่าน Allmon2
ทดสอบสั่งเชื่อมต่อไปยังโหนด 55087 ซึ่งเป็นโหนดที่อยู่บนระบบ Cloud เปิดไว้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อใช้ทดลองเป็น HUB ในการเชื่อมต่อระบบ AllStar Link โดยระบุหมายเลขโหนดด้านบนและคลิ๊กที่ Connect เพื่อเชื่อมต่อ
Connect = เชื่อมต่อเพื่อรับฟังและสามารถส่งออกไปได้ด้วย
Disconnect = ตัดการเชื่อมต่อ
Monitor = เชื่อมต่อแบบรับฟังอย่างเดียว
หลังจากคลิ๊กที่ Connect แล้วถ้าสามารถเชื่อมต่อไปยังโหนดที่ระบุได้จะมีข้อมูลของโหนดนั้น ๆ แสดงอยู่ด้านล่าง
ในส่วนของ Allmon2 ก็ทำเพียงเท่านี้ครับก็สามารถใช้งานได้แล้ว
เริ่มตั้งค่า Supermon
เปลี่ยนการทำงานไปอยู่ที่ /var/www/html/supermon โดยใช้คำสั่ง
cd /var/www/html/supermon
กำหนดรหัสผ่านในไฟล์ allmon.ini.php ที่อยู่ที่ /var/www/html/supermon
sudo pico allmon.ini โดยอยู่ที่ /var/www/html/supermon หรือระบุเป็น
sudo pico /var/www/html/supermon/allmon.ini
แก้ไขค่าในไฟล์ allmon.ini โดยไปแก้ไขข้อมูลในโหนด [1998] ให้เป็นของข้อมูลโหนดเราแทน
หลังจากแก้ไขเสร็จแล้วบันทึกข้อมูลและออกจากโปรแกรม
ทำการแก้ไขข้อมูลในไฟล์ global.inc เพื่อแก้ไขการแสดงผลหน้าเว็บให้เป็นข้อมูลของเรา
ทำการสั่งแก้ไขไฟล์ global.inc ที่อยู่ใน /var/www/html/supermon โดยใช้คำสั่ง
sudo pico global.inc ที่ /var/www/html/supermon หรือ แก้ไขโดยตรงได้ที่
sudo pico /var/www/html/supermon/global.inc
กำหนดข้อมูลต่าง ๆ ของเราที่จะแสดงผลในหน้าเว็บดังนี้
You Callsign = สัญญาณเรียกขานของผู้ใช้
Your Name = ชื่อผู้ใช้ AllStar Link
Your Location = สถานที่ใช้งาน
หลังจากแก้ไขข้อมูลเสร็จแล้วสั่งบันทึกและออกจากโปรแกรม และทดลองโหลดหน้าเว็บ Supermon ใหม่อีกครั้ง
จะเห็นว่าการแสดงผลในหน้าเว็บ Supermon ตอนนี้จะเปลี่ยนตามข้อมูลที่เราระบุไปในไฟล์ global.inc
ทำการกำหนดรหัสผ่านของ Server อีกครั้งด้วยคำสั่งเดียวกันกับ Allmon2 โดยจะต้องทำขณะอยู่ที่ /var/www/html/supermon/
ข้อควรระวัง!!!
การใส่ระหัสผ่านสำหรับระบบ Linux จะไม่มีข้อความหรือสัญญลักษณ์อะไรแสดงที่หน้าจอเพราะฉะนั้นเราจะต้องระมัดระวังในการใส่ให้ถูกต้อง หากใส่ผิดไม่สามารถที่จะใช้ Del หรือ Back Space ลบข้อมูลได้ ให้ใช้ Ctrl+U แล้วใส่รหัสใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น
sudo htpasswd -cB .htpasswd admin
ทดลอง Login เพื่อเข้าใช้งาน Supermon โดยคลิ๊กที่ปุ่ม Login ด้านบนของหน้าเว็บและใช้ Username : admin / รหัสผ่านตามที่กำหนดไว้
หมายเหตุ ควรคลิ๊กที่ Login แทนการกด Enter เพื่อเข้าระบบจากการทดลองหลายครั้งปรากฏว่าถ้ากด Enter ระบบจะไม่ยอมให้ Login
ถ้าหาก Login สำเร็จปุ่ม Login เดิมจะเปลี่ยนเป็น Logout และเราสามารถคลิ๊กที่หมายเลขโหนดเพื่อดูข้อมูลได้โดยมีสิทธิ์เป็น Admin
ในหน้าเว็บ Supermon นี้เราสามารถสั่งเชื่อมต่อและตัดการเชื่อมต่อไปยังโหนดต่าง ๆ ได้เช่นเดียวกับ Allmon2 ทำการดลองเชื่อมต่อไปยังโหนด 55087 ถ้าเชื่อมต่อสำเร็จก็จะมีข้อมูลของโหนด 55087 ที่เราไปเชื่อมต่อขึ้นมาในหน้าเว็บ
เราสามารถดูแผนผังการเชื่อมต่อของโหนดเราและโหนดต่าง ๆ ที่มีการเชื่อมกันได้จากเมนู Bubble Chart
มาถึงจุดนี้ก็คงเห็นภาพความน่าใช้ของ AllStar Link กันแล้วนะครับ เพราะนอกจากจะสนุกการการเชื่อมต่อโหนดต่าง ๆ ผ่านทางหน้าเว็บแล้ว ยังสามารถเรียกดูแผนผังการเชื่อมต่อผ่านทางหน้าเว็บได้อีกด้วย
ในการติดตั้งใช้งาน AllStar Link ในส่วนต่าง ๆ เนื่องจากเป็นระบบ Linux และเป็นการพัฒนาจากหลาย ๆ ผู้พัฒนาการใช้คำสั่งต่าง ๆ ในบางครั้งต้องมีความเข้าใจระบบพอสมควร สำหรับเพื่อน ๆ ที่ติดปัญหาสามารถสอบถามมาที่ผม HS2BMI ได้โดยเพิ่มเพื่อนทาง LINE ID : aisfttx และฝากถึงเพื่อน ๆ ที่สนใจวิทยุสมัครเล่นในระบบดิจิตอล ไม่ว่าจะเป็น DSTAR หรือ DMR สามารถเข้ากลุ่ม LINE Open Chat เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารหรือถามข้อสงสัยในการใช้งานระบบได้ครับ